สุขภาพของดวงตา

สุขภาพดวงตากับอายุในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่มักจะดูแลรักษาสุขภาพให้ห่างไกลโรคสุดฮิตอย่างโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงหรือโรคอื่นๆ

แต่อวัยวะที่ร่างกายต้องใช้ทุกวันอย่างดวงตากลับได้รับความสนใจน้อยกว่าจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าจากผลสำรวจเกี่ยวกับสุขภาพดวงตาของคนที่มีอายุ50ปีทั่วโลกกว่า45ล้านคนพบว่า80%จากจำนวนคนทั้งหมดมีปัญหาสายตาจนถึงขั้นตาบอดและในวันนี้เราได้มีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพดวงตามาฝากกัน

ซึ่งเราจะมาคุยกับสิ่งที่มันดูใกล้ตัวเรามากขึ้นที่มันได้อยู่ใกล้กับเราจริงๆแต่เรานั้นอาจจะมองไม่เห็นซึ่งของบางอย่างมันอาจจะอยู่ไกลจนเรามองเห็นไม่ชัดใกล้ไปก็มองไม่เห็นซึ่งเราก็จะมาพูดถึงสิ่งที่วิทยาศาสตร์การแพทย์แขนงใหม่สมัยใหม่ในปีหลายปียังเป็นอวัยวะที่ซ่อมได้ยากมาและมันไม่มีอะไหล่ก็คือลูกตาคน 

ซึ่งลูกตาของคนเรานั้นมันคือหน้าต่างของหัวใจเขาได้ว่าเอาไว้นี่มันคือสิ่งที่มีค่ามากโลกใบนี้เราได้มองเห็นมันทุกอย่างเราสามารถรับรู้ทุกสิ่งด้วยสายตาของเราแต่มีน้อยมากที่เราจะถนอมเขาหรือใช้เขาให้คุ้มค่าซึ่งเราได้อธิบายไปหลายคนเกี่ยวกับลูกตาของคนเราเราบอกไม่ได้หรอกว่าในวันหนึ่งลูกตาของเรามันจะเสื่อมลงเมื่อไรแต่ถ้าเราคิดว่าลูกตาของเราเหมือนกับหลอดไฟเราลองคำนวนดูสิว่าวันนึงหลอดไฟใช้วันนึงเท่าไรและเปรียบเทียบกับดวงตาของเราดูว่าวันนึงลูกตาเราอาจจะเป็นอย่างนั้นแต่ถ้าว่านึงลูกตาของคนเราบอดไปแล้วมันก็อาจจะไม่มีอะไหล่แล้ว

ในสมัยก่อนคนเราได้ทำตัวเลขของโรงพยาบาลกรุงเทพคนเป็นโรคเกี่ยวกับสายตามันไม่ใช่แบบนี้เมื่อก่อนเขาก็จะเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาแบบอื่นๆติดเชื้ออะไรก็ว่ากันไปในปัจจุบันนี่เขาได้เรียกกันว่ายุคโลกาภิวัฒน์เป็นต้นมาจนมาถึงยุคไซเบอร์ยุคเฟสบุ๊คยุคอินสตาแกรมยุคไลน์อะไรก็แล้วแต่

ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไปถึงสุขภาพจิตที่เราโดนรบกวนสุขภาพจิตใจมากเมื่อก่อนอยากจะคุยกัน ถ้าไม่รีบร้อยมากก็พรุ่งนี้ถ้ารีบหน่อยก็ส่งโทรเลขถ้ารีบมากก็มาที่บ้านเราจะไม่ค่อยได้ฟังเรื่องไร้สาระเราได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอยู่กับบ้านกับพ่อและแม่ในช่วงเวลาที่เรานั้นออกไปข้างนอกแต่ปัจจุบันความเครียดหรือสิ่งเหล่านี้เข้าใกล้ตัวมากจนเราไม่มีเวลาส่วนตัวเข้าห้องน้ำก็อ่านไลน์ตื่นตีสามตีสี่ก็ต้องอ่านไลน์ก่อนนอนก็เล่นก่อนครั้งสุดท้ายแบบนี้คุณควรเปลี่ยนเพราะมันอาจจะทำให้สายตาของเรานั้นเสียได้นี่คือสิ่งที่มันเป็นโรคในปัจจุบันนี้

 

สนับสนุนโดย  next88 line

เรื่องนี้ถูกเขียนใน สุขภาพ และติดป้ายกำกับ , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร