เมื่อลูกน้อยของเรานั้นเกิดอาการที่เป็นหวัดนั้นคุณแม่มือใหม่นั้นจะรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเพราะว่าไม่รู้ว่าจะให้กินยาลดน้ำมูกนั้นดีไหมซึ่งปัญหาเหล่านี้นั้นมักจะเกิดขึ้นกับคุณแม่มือใหม่โดยที่คุณแม่นั้นต้องหาวิธีในการที่เรานั้นต้องรับมือเพื่อที่จะให้เจ้าตัวน้อยนั้นหายเป็นปกติ
ทารกเป็นหวัดสังเกตอย่างไร
เมื่อลูกน้อยนั้นเป็นหวัดอาจจะมีอาการไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ซึ่งน้ำมูกนั้นอาจจะหนา จนเป็นสีเทา หรือว่าเป็นสีเหลืองเข้ม หรือว่าสีเขียวหากว่าเป็นนานกว่า 1 สัปดาห์ และเด็กบางรายนั้นอาจจะมีไข้ต่ำๆร่วมด้วยโดยคุณพ่อคุณแม่นั้นต้องสังเกตพฤติกรรมของลูกน้อยเรานั้นให้ดีๆเพราะว่าเมื่อทารกนั้นเป็นหวัดก็ยังที่จะสามารถกินน้ำกินนมนั้นได้แบบว่าปกติ แสดงว่าเด็กนั้นจะมีปัญหาสุขภาพที่รุนแรงกว่าอาการที่เป็นหวัด ซึ่งภาวะเจ็บป่วยอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับทารกนอกเหนือจากการเป็นหวัดธรรมดา มีดังนี้
- ไข้ โดยอาการจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและทำให้ทารกมีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น โดยที่อุณภูมิปกตินั้นจะอยู่ที่37 องศา เซลเซียส
- โรคทางเดินอาหาร เช่น ติดเชื้อไวรัส ในทางเดินอาหารซึ่งจะทำให้ทารกนั้นท้องเสีย และอาการอาเจียนเป็นต้น
- โรคภูมิแพ้ โดยทารกจะมีอาการคัน จาม น้ำตาและน้ำมูกนั้นไหล ซึ่งน้ำมูกที่ไหลออกมานั้นมักจะมีอาการเป็นของเหลวใส
โดยดังนี้ถ้าลูกเรานั้นมีอาการที่เราเล่ามานั้นและมีอายุที่น้อยกว่า 3 เดือนนั้นต้องพาไปพบแพทย์เพราะว่าเป็นเด็กเล็ก และถ้ามีอาการไข้นั้นด้วยอย่างเช่น 38 องศาเซลเซี่ยว ควรที่จะพาไปพบแพทย์ทันที เพราะว่าจะเป็นอันตรายของโรคหรือว่าภาวะรุนแรงอื่นๆได้
วิธีการรับมือเมื่อทารกนั้นเป็นหวัด
- บรรเทาด้วยการการกินยา ในกรณีนี้ต้องเป็นทารกที่มีอายุ 4 เดือนนั้นขึ้นไป อาจจะใช้ยาพาราเซตามอล เพื่อที่จะบรรเทาอาการจากการที่เป็นหวัดนั้นได้ แต่ว่าไม่ควรที่จะซื้อตามร้านขายยาทั่วไปนั้นมาใช้เอง ๕ณแม่นั้นควรที่จะพาไปหาหมอแล้วก็ปรึกษาว่าควรที่จะให้กินยาไหม เพราะว่าถ้าเรานั้นพาไปหาหมอนนั้นคุณหมอจะจัดยาให้กับลูกน้อยของเรานั้นเอง และเป็นยาที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยเหมาะสมต่อลูกน้อย
- สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด คุณพ่อกับคุณแม่นั้นควรที่จะเฝ้าดูแลอาการของลูกน้อยว่าเป็นอย่างไร แต่เมื่อว่าลูกน้อยนั้นมากกว่า 3 วันนั้นและถ้าอาการนั้นรุนแรงเริ่มมีอาการไอ หายใจลำบาคอย่างต่อเนื่องเป็นต้น อาการเหล่านี้เราต้องพาลูกน้อยของเรานั้นพบแพทย์
สนับสนุนโดย บาคาร่าออนไลน์