โรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนูที่เรารู้จักเป็นอย่างดีสำหรับโรคนี้มักจะมีอยู่ในช่วงฤดูฝนเพราะมันจะมากับภาวะที่ฝนตกหนักซึ่งหากมีน้ำท่วมขังจะเป็นสารที่ก่อตัวให้เป็นโรคฉี่หนูได้นั่นเองเราจะเห็นได้ว่าการที่มีน้ำท่วมขังมากจะนำพา เชื้อโรคต่างๆเข้ามาหาเราได้ง่ายซึ่งโลกเหล่านั้นมักจะมีหลายชนิดเช่นโรคน้ำกัดเท้าโรคเชื้อราที่เท้า โรคอหิวาตกโรค และโรคอุจจาระร่วงเป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีโรคที่รุนแรงอยู่อีกที่ไม่ใช่ โลกที่กล่าวมานี้และเราจะเจอผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคนี้ในทุกๆปีอีกด้วยซึ่งโลกที่เราพูดถึงนี้ก็คือโรคฉี่หนูนั่นเองซึ่งโรคเหล่านี้มักจะระบาดในช่วงหน้าฝนดังนั้นวันนี้เรามาหาทางแก้ไขเพื่อไม่ให้เป็นโรคเหล่านั้นกันดีกว่าโดยวิธีมีดังนี้
ข้อมูลเกี่ยวกับโรคฉี่หนูที่เราควรทราบ
โรคฉี่หนูเป็นโรคที่เรามักจะเจอคนที่เป็นในช่วงฤดูฝนเพราะมันจะมีน้ำขังโดยโรคเหล่านี้จะมาตามน้ำที่เกิดจากการแพร่เชื้อเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆซึ่งการนำพาหนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นหนูซึ่งหากไม่มีฉี่ออกมา และผสมผสานกับสภาวะแวดล้อมจะเกิดเชื้อที่เรียกว่าโรคฉี่หนูนั่นเองซึ่งนอกจากหนูแล้วยังพบได้จากสุนัขควายวัวซึ่งมันสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้สองแบบคือ
ทางตรงซึ่งทางตรงเหล่านี้คือการสัมผัสกับเชื้อโดยตรงอาจจะเป็นไปสัมผัสกับมันโดยตรงหรือโดนมันกัดนั่นเอง
โดนทางอ้อมซึ่งสามารถโดนได้หลายหลักช่องทางโดยการปนเปื้อนที่อยู่ในน้ำหรือดินที่เราได้ไปสัมผัสอาจจะมีการเข้าสู่ทางบาดแผลของเราก็เป็นได้หรืออาจจะเป็นเข้าทางอาหารหรือรอื่นก็ได้เช่นกัน
อาการเหล่านี้หากมีการโดนจะมีลักษณะเช่นนี้
หากเรามีการติดเชื้ออาจจะประมาณสี่ถึง 14 วันหากมีการเข้าสู่กระแสเลือดแล้วจะเกิดอาการดังนี้ มีไข้สูง ปวดหัวรุนแรงตาแดงปวดกามเนื้อเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวบางรายอาจจะมีการขึ้นไส้อาเจียนหรือบางคนก็อาจจะส่งผลให้ปวดท้องหรือท้องเสียได้นั่นเองซึ่งอาการรุนแรงของมันอาจทำให้ตับและไตวายได้ร้ายแรงสุดก็คือเสียชีวิตนั่นเอง
แนวทางการรักษาหากเป็นโรคฉี่หนูมีดังนี้
โรคนี้เป็นโรคที่สามารถรักษาได้ด้วยยาซึ่งหากมีอาการเราต้องรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาในขั้นต่อไปโดยการรักษาจะขึ้นอยู่กับระดับการเป็นมากหรือน้อยซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ใช้และให้ยามาใช้หรือมาทานเพื่อการรักษานั่นเอง
ห้าถึงฤดูฝนแล้วควรระวังตนเองมากกว่าที่จะรักษาดังนั้นหากมีน้ำขังก็ควรใส่รองเท้าที่ป้องกันน้ำหรือควรดูแลทำความสะอาดตัวเองให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆเหล่านี้ให้เข้ามาสู่ร่างกายของเราหากมีการผิดปกติไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามควรรีบพบแพทย์ในทันทีเพื่อเป็นการรักษาให้ทันท่วงทีก่อนที่จะสายเกินไป